วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

                                     กลอนวันวาเลนไทน์คนของเธอ..

ไม่ต้องบอกสิ่งฝันเคยผันผ่าน
ไม่ต้องบอกเคยหวานสะท้านทั่ว
ไม่ ต้องบอกใครทำช้ำหมดตัว
ไม่ต้องบอกใครชั่วทำร้ายเธอ

แค่เธอรู้ยัง มีฉันนี้อยู่
ยืนเคียงคู่สร้างฝันทุกวันเสมอ
ไม่ว่าฝันรวดร้าวที่เธอ เจอ
สิ่งพลาดเผลอยังมีฉันนี้เคียง

เพราะฉันพร้อมจะอยู่ดูแลเธอ
แม้น ต้องเจออะไรร้อยร้ายเสี่ยง
ทำเพื่อเธอคนเดียวแค่ขอเพียง
ได้ยินเสียง เธอบอกว่ารักฉัน!

บท ส่งใจ
"ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร
จะผ่านอะไรมา
ขอจงอย่าเป็นกังวล
นี่คือคนของเธอ
เป็นคนที่รักเธอ ..ตลอดไป "


วางโทรศัพท์ลง...
รอยยิ้มยังคงเปื้อนบนใบหน้า
ตา เป็นประกาย...หัวใจเต้นดังออกมา
...แต่จำไม่ได้...ตอบเธอไปว่า...ยัง ไง...

..................................................................

"พร้อม แล้วหรือยัง
ที่จะเดินทางร่วมกัน...เติมวันสดใส"
คำถามง่ายๆ...ที่ฉัน จำไม่ได้ว่าตอบอะไรออกไป
เธอรู้คำตอบอยู่แล้วใช่ไหม...ตลอดมา

"พร้อม เสมอ"
คำตอบที่อยากบอกเธอ...ตั้งแต่วันที่เราพบหน้า
เธอเป็นคนเดียว ...ในส่วนเติมเต็มของวันเวลา
ในช่องว่างที่ตามหา...จะเป็นใครไม่ได้นอก จากเธอ

.................................

บน ถนนสายนั้น
ครั้งแรกที่เราเดินทางไปด้วยกัน...จำได้ใช่ไหม
ฉันเชื่อ มั่น เธอมั่นใจ
จะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยไปด้วยกัน

....................................................................

ใคร หลายคนห่วงใย
ความรักทางไกล...อาจเป็นไปแค่ฝุ่นฝัน
ณ เวลานี้ เราได้พิสูจน์หัวใจของกันและกัน
ระยะทางไม่เคยบั่นทอนความเชื่อมั่นที่ เรามี

..................................................................

ขอบคุณที่ให้ฉันสัมผัสถึงความรัก
ขอบคุณที่แน่นหนัก...ไม่เคยเดินหนี
ขอบคุณทุกวันที่มีเธออยู่...ในทุกวินาที
ขอบคุณนะคะคนดี...
"ขอให้เรา อยู่เคียงข้างกันแบบนี้ตลอดไป"

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การ เข้าหัว RJ45

เดี๋ยว นี้ คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น ใครมีลูกหลานก็คงจะเห็นชัดว่าเขาเหล่านั้นมักจะมีความสนใจในการแก้ไขปัญหา ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งที่การเริ่มต้นอาจจะมาจากการเล่นเกมส์ก็ตาม เมื่อเขามีความสนใจก็คงต้องส่งเสริมกันล่ะครับ

ต่อ มาวิวัฒนาการมากขึ้น การเชื่อมต่อกับโลกภายนอกก็ตามมาถึงในบ้าน ครั้นจะซื้อทุกอย่าง พ่อแม่ก็คงเห็นว่าไม่ค่อยจะมีพัฒนาการในการแก้ไขปัญหา ก็เลยมาถามว่าทำไงให้เด็ก ๆ เหล่านั้นมีความสนใจเรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง คำตอบจากพ่อแม่เด็กครับ "ไม่รู้เหมือนกัน" ...วันนี้ก็เลยเอาเรื่องสายเน็ตเวิร์ก หรืออาจจะได้ยินคนเรียกว่าสาย UTP (Unshielded Twisted Pair) มาเล่าสู่กันฟังครับ
ปัจจุบัน สายเน็ตเวอร์กที่นิยมใช้เดินในอาคาร ก็คือสาย UTP หรืออาจจะเรียกว่า 10BaseT หรืออาจได้ยินว่าสาย CAT5 ซึ่งสาย CAT5 จะสามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลได้ถึง 100 เมกกะบิตต่อวินาที (100 megabit per second)
สาย CAT5 จะเป็นสายที่มีตีเกลียวกัน 4 คู่ (รวมแล้วมีทั้งหมด 8 เส้น) เราถึงได้เรียกว่า Unshielded Twisted Pair (UTP)
รหัส สีของสาย CAT5 ทั้ง 4 คู่ จะใช้ตามค่ามาตรฐานของ Electronic Industry Association/Telecommunications Industry Association's Standard 568B ดังตาราง
สาย คู่ที่ 1ขาว/น้ำเงิน
น้ำเงิน
สายคู่ที่ 2บาว/ส้ม
ส้ม
สายคู่ที่ 3ขาว/เขียว
เขียว
สายคู่ที่ 4 ขาว/น้ำตาล
น้ำตาล
หัวต่อ (Connectors)
หัวต่อสาย CAT5 UTP เราจะเรียกกันติดปากว่า หัว RJ45 (RJ ย่อมาจาก Registered Jack)
ใน มาตรฐานของ IEEE กำหนดให้ Ethernet 10BaseT ต้องมีสายตีเกลียวเป็นคู่ ๆ และคู่ที่หนึ่งจะเชื่อมต่อเข้ากับขา 1 และ 2 , และ คู่ที่สองจะต่อเข้ากับขา 3 และ 6 ส่วนขา 4 และ 5 จะข้ามไม่ใช้งาน
การ เชื่อมต่อสายตามมาตรฐาน EIA/TIA-568B RJ-45 :
ในการใช้งานจะใช้แค่ 2 คู่ในการรับส่งข้อมูลตามมาตรฐาน 10BaseT โดยใช้คู่ที่ 2 (ขาว/สัม , ส้ม) และคู่ที่ 3 (ขาว/เขียว , เขียว)
คู่ที่ 2ต่อเข้ากับขา 1 และ2ดังนี้:
ขา 1 ใช้สีขาว/ส้ม
ขา2 ใช้สีส้ม
คู่ที่3ต่อเข้ากับ ขา3 และ6ดังนี้:
ขา3 ใช้สีขาว/ส้ม
ขา6 ใช้สีส้ม
ส่วน สองคู่ที่เหลือให้ต่อดังนี้ครับ
คู่ที่ 1
ขา4 ใช้สีน้ำเงิน
ขา5 ใช้สีขาว/น้ำเงิน
คู่ที่ 4
ขา7 ใช้สีขาว/น้ำตาล
ขา8 ใช้สีน้ำตาล
การ เรียงสีให้ดูตามรูปก็ได้ครับ
เมื่อ จัดสีให้ตรงตามแบบแล้วก็ทำการตัดให้ปลายเท่ากันแล้วใส่สายเข้าไปในหัว RJ45
โดย ให้ปลายของสายแต่ละเส้นไปชนกับด้านบนสุดของหัว RJ45 เมื่อชนสุดแล้วใช้คีมสำหรับเข้าหัว RJ45 บีบให้แน่น จากนั้นให้ทำเหมือนกันทั้งสองด้าน

สายไข้ว (Crossover Cables)
ใน การ เข้าสายแบบพิเศษ หรือที่เรียกกันว่า สายไขว้ (Crossover Cable) จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งของปลายสายด้านหนึ่งของสายเคเบิล ซึ่งจะสลับกันจาก ขา 1&2 ไปเป็นขา 3&6 และจากขา 3&6 ไปเป็นขา 1&2 ส่วนขา 4&5 และ 7&8 ไม่เปลี่ยนแปลง
เพื่อให้เข้าใจจะมีการต่อสายทั้งสองด้านดังนี้ครับ:
ปลายด้านปกติ (Standard)ปลายด้านไขว้ (Crossover)
ขา 1 ขาว/ส้ม ขา 1 ขาว/เขียว
ขา 2 ส้มขา 2 เขียว
ขา 3 ขาว/เขียวขา 3 ขาว/ส้ม
ขา 4 น้ำเงิน ขา 4 น้ำเงิน
ขา 5 ขาว/น้ำเงิน ขา 5 ขาว/น้ำเงิน
ขา 6 เขียวขา 6 ส้ม
ขา 7 ขาว/น้ำตาลขา 7 ขาว/น้ำตาล
ขา 8 น้ำตาล ขา 8 น้ำตาล
ข้อมูลในตารางจะใช้สำหรับปลายด้านที่เป็นสาย ไขว้ (Crossover End)
คู่ที่ 2ต่อเข้ากับขา 1 และ2ดังนี้:
ขา1 ใช้สีขาว/เขียว
ขา2 ใช้สีเขียว
คู่ที่ 2ต่อเข้ากับขา3 และ6ดังนี้:
ขา3 ใช้สีขาว/ส้ม
ขา6 ใช้สีส้ม
ภาพที่แสดงจะเป็นการเรียง สีของสายที่จะทำเป็นปลาย สายไขว้
เมื่อ สอดปลายของสายแต่ละเส้นไปชนกับด้านบนสุดของหัว RJ45 จากนั้นก็ใช้คีมสำหรับเข้าหัว RJ45 บีบให้แน่น

วิธีการเข้าสายLAN

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553


วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN)

ระบบเครือข่ายไร้สาย
ระบบเครือข่ายไร้สาย หรือ ระบบเครือข่ายแบบ Wireless LAN หรือ WLAN เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายแบบไร้สาย (ไม่จำเป็นต้องเดินสายเคเบิ้ล) เหมาะสำหรับการติดตั้งในสถานที่ที่ไม่สะดวกในการเดินสาย หรือในสถานที่ที่ต้องการความสวยงาม เรียบร้อย และเป็นระเบียบ เช่น สนามบิน โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น
หลักการทำงานของระบบ Wireless LAN
การทำงานจะมีอุปกรณ์ในการส่งสัญญาณ และกระจายสัญญาณ หรือที่เราเรียกว่า Access Point และมี PC Card ที่เป็น LAN card สำหรับในการเชื่อมกับ access point โดยเฉพาะ การทำงานจะใช้คลื่นวิทยุเป็นการรับส่งสัญญาณ โดยมีให้เลือกใช้ตั้งแต่ 2.4 to 2.4897 Ghz และสามารถเลือก config ใน Wireless Lan (ภายในระบบเครือข่าย Wireless Lan ควรเลือกช่องสัญญาณเดียวกัน)

รูปแบบการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายไร้สาย
2.1 Peer-to-peer ( ad hoc mode )

รูปแบบการเชื่อมต่อระบบแลนไร้สายแบบ Peer to Peer เป็นลักษณะ การเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่องหรือมากกว่านั้น เป็นการใช้งานร่วมกันของ wireless adapter cards โดยไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเลย โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีความเท่าเทียมกัน สามารถทำงานของตนเองได้และขอใช้บริการเครื่องอื่นได้ เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อจุดประสงค์ในด้านความรวดเร็วหรือติดตั้งได้ โดยง่ายเมื่อไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับ ยกตัวอย่างเช่น ในศูนย์ประชุม, หรือการประชุมที่จัดขึ้นนอกสถานที่
2.2 Client/server (Infrastructure mode)


ระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Client / server หรือ Infrastructure mode เป็นลักษณะการรับส่งข้อมูลโดยอาศัย Access Point (AP) หรือเรียกว่า “Hot spot” ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่ายแบบใช้สายกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ลูกข่าย (client) โดยจะกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่อ รับ-ส่งข้อมูลเป็นรัศมีโดยรอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรัศมีของ AP จะกลายเป็น เครือข่ายกลุ่มเดียวกันทันที โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ จะสามารถติดต่อกัน หรือติดต่อกับ Server เพื่อแลกเปลี่ยนและค้นหาข้อมูลได้ โดยต้องติดต่อผ่านAP เท่านั้น ซึ่ง AP 1 จุด สามารถให้บริการเครื่องลูกข่ายได้ถึง 15-50 อุปกรณ์ ของเครื่องลูกข่าย เหมาะสำหรับการนำไปขยายเครือข่ายหรือใช้ร่วมกับระบบเครือข่ายแบบใช้สายเดิม ในออฟฟิต, ห้องสมุด หรือในห้องประชุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น
2.3 Multiple access points and roaming


โดยทั่วไปแล้ว การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ กับ Access Point ของเครือข่ายไร้สายจะอยู่ในรัศมีประมาณ 500 ฟุต ภายในอาคาร และ 1000 ฟุต ภายนอกอาคาร หากสถานที่ที่ติดตั้งมีขนาดกว้าง มากๆ เช่นคลังสินค้า บริเวณภายในมหาวิทยาลัย สนามบิน จะต้องมีการเพิ่มจุดการติดตั้ง AP ให้มากขึ้น เพื่อให้การรับส่งสัญญาณในบริเวณของเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นไปอย่างครอบคลุมทั่วถึง
2.4 Use of an Extension Point


กรณีที่โครงสร้างของสถานที่ติดตั้งเครือข่ายแบบไร้สายมีปัญหาผู้ออกแบบระบบ อาจจะใช้ Extension Points ที่มีคุณสมบัติเหมือนกับ Access Point แต่ไม่ต้องผูกติดไว้กับเครือข่ายไร้สาย เป็นส่วนที่ใช้เพิ่มเติมในการรับส่งสัญญาณ
2.5 The Use of Directional Antennas


ระบบแลนไร้สายแบบนี้เป็นแบบใช้เสาอากาศในการรับส่งสัญญาณระหว่าง อาคารที่อยู่ห่างกัน โดยการติดตั้งเสาอากาศที่แต่ละอาคาร เพื่อส่งและรับสัญญาณระหว่างกัน
ระยะทางการเชื่อมต่อของระบบ Wireless LANภายในอาคาร
1. ระยะ 50 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 11 Mbps
2. ระยะ 80 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 5.5 Mbps
3. ระยะ 120 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 2 Mbps
4. ระยะ 150 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 1 Mbps
ภายนอกอาคาร
1.ระยะ 250 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 11 Mbps
2. ระยะ 350 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 5.5 Mbps
3. ระยะ 400 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 2 Mbps
4. ระยะ 500 เมตร ได้ความเร็วประมาณ 1 Mbps


อุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย Wireless LAN
1. แลนการ์ดไร้สาย (Wireless LAN Card)
ทำหน้าที่ในการ แปลงข้อมูล ดิจิตอล ที่ได้จากการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นคลื่นวิทยุแล้วส่งผ่านสาย อากาศให้กระจายออกไป และทำหน้าที่ในการรับเอาคลื่นวิทยุที่แพร่กระจายแปลงเป็น ข้อมูลดิจิตอล ส่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผล Wireless LAN ที่ผลิตออกมาจำหน่าย มีหลายรูปแบบแบ่งตามลักษณะช่องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ได้ดังนี้
- แลนการ์ดแบบ PCI
- แลนการ์ดแบบ PCMCIA
- แลนการ์ดแบบ USB
- แลนการ์ดแบบ Compact Flash (CF)
2. อุปกรณ์เข้าใช้งานเครือข่าย (Wireless Access Point)
ทำหน้าที่เสมือน ฮับ เชื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ไร้สายและอุปกรณ์ไวร์เลสแลนแบบต่าง ๆเข้าด้วยกัน อีกทั้งเป็นสะพานเชื่อมต่อ เครื่องไวร์เลสแลนเข้ากับเครื่องอีเธอร์เนตทำให้ระบบทั้งสองสามารถสื่อสาร กันได้
3.
สะพานเชื่อมโยงไร้สาย (Wireless Bridge)ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระบบ เครือข่ายอีเธอร์เน็ตแลนตั้งแต่สองระบบขึ้นไปเข้าด้วยกันแทนการใช้สายสัญญาณ ข้อมูลที่สื่อสารระหว่างเครือข่ายอีเธอร์เน็ตจะถูกแปลงเป็นคลื่นวิทยุแล้ว ถูกแปลงไปยังปลายทาง
4. Wireless Broadband Router
ทำหน้าที่ในการต่อเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านคู่สายโทรศัพท์ (ADSL) หรือ เคเบิลทีวี (UBC) ด้วยเทคโนโลยี Broadband Router ซึ่งมีฟังชันการทำงานเป็นตัวค้นหาเส้นทาง, NAT (Network Address Translation) , Firewall , VPN ๆลๆ มาผสมผสานเข้ากับ Access Point ทำให้ผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ไร้สายสามารถสื่อสารข้อมูลไปยังระบบอิน เทอร์เน็ต
5.
Wireless Print Serverอุปกรณ์การแชร์เครื่องพิมพ์บนระบบเครือข่าย Wireless LAN
6. Power Over Ethernet Adapter
ทำหน้าที่แยกสาย UTP ที่มีสายทองแดงตีเกลียวอยู่ข้างใน 4 คู่โดยสายทองแดงสำหรับใช้สื่อสารข้อมูลใช้เพียง 2 คู่เท่านั้น ส่วนสายทองแดงอีก 2 คู่สามารถใช้อุปกรณ์ตัวนี้นำมาใช้เป็นเส้นทางสำหรับส่งแรงดันไฟฟ้าไปให้กับ ตัว Access Point ได้
7. สายอากาศ (Antenna)
ทำหน้าที่เปลี่ยนข้อมูลในรูปของกระแสไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากภาคส่งของอุปกรณ์ ไวร์เลสแลนให้กลายเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแพร่กระจายออกไปในอากาศและสายอากาศ ยังทำหน้าที่รับเอาคลื่นที่อุปกรณ์ไวร์เลสแลนเครื่องอื่น ๆ ส่งออกมาแปลงกลับให้อยู่ในรูปของกระแสไฟฟ้าส่งให้ภาครับต่อไป

ประโยชน์ของระบบ Wireless LAN
1. สะดวกในการเคลื่อนย้าย ติดตั้ง เนื่องจาก WLAN ไม่จำเป็นต้องมีสายเคเบิ้ลในการต่อพ่วง
2. ง่ายในการติดตั้ง เพราะไม่จำเป็นต้องเดินสายเคเบิ้ล
3. ลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ต้องจำเป็นต้องเสียค่าบำรุงรักษา ในระยะยาว
4. สามารถขยายเครือข่ายได้ไม่จำกัด

ข้อเสียของระบบ Wireless LAN
1. มีอัตราการลดทอนสัญญาณสูง นั่นหมายความว่า “ ส่งสัญญาณได้ระยะสั้น ”
2. มีสัญญาณรบกวนสูง
3. ต้องแชร์กันใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่เดียวกัน
4. ยังมี หลายมาตรฐาน ตามผู้ผลิต แต่ละราย ทำให้มีปัญหาในการใช้งานร่วมกัน
5. ราคาแพงกว่าระบบเครือข่ายแบบมีสาย
6. มีความเร็วไม่สูงมากนัก

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

blog my frinbs

http://www.mememejung.blogspot.com/
http://www.tiruk15.blogspot.com/
http://www.jukduy.blogspot.com/
http://www.nittaya13.blogspot.com/
http://www.nutsba.blogspot.com/
http://www.patama13.blogspot.com/
http://www.newyear7134.blogspot.com/
http://www.dajung2010.blogspot.co/
http://www.poopae555.blogspot.com/
http://www.zoo-ruk.blogspot.com/
www.praputson2.blogspot.com
http://www.namtho999.blogspot.com/
http://www.santan9899.blogspot.com/
http://www.swlkksanpui.blogspot.com/
http://www.apisit-loveyou.blogspot.com/
http://www.koonstitchclub.blogspot.com/
www.Thaicok.blogspot.com
http://www.tangtonnalove.blogspot.com/
http://www.pimpakk486.blogspot.com/
http://www.petchai222.blogspot.com/
http://www.kimhyonjung.blogspot.com/
http://www.surut16.blogspot.com/
http://www.forgetmenot_fernway.blogspot.com/
http://www.sorry-lin.blogspot.com/
http://www.mintra-abnormal.blogspot.com/
http://www.dowandmok.blogspot.com/
http://www.cheesekra.blogspot.com/
http://www.ae/ andtama.blogspot.com
http://www.pigred.blogspot.com/
http://www.tukinpo.blogspot.com/
http://www.tukinpo.blogspot.com/
http://www.toulex5.blogspot./
http://www.loypila.blogspot.com/
http://www.kapook16.blogspot.com/
http://www.mayrrhung.blogspot.com/
http://www.bigbody11.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เพิ่มคำอธิบายภาพ
ไผ่สีสุก หมายถึง มีความสุขกายสบายใจ ไร้ทุกข์โศกโรคภัย
 

ข้อมูลทางวิชาการ
เป็นไม้ไผ่ประเภทมีหนาม ความยาวลำต้นสูง 10 - 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 - 12 เซนติเมตร แข็ง ผิวเรียบเป็นมัน ข้อไม่พองออกมา กิ่งมากแตกตั้งฉากกับลำต้น หนามโค้งออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 อัน อันกลางยาวกว่าเพื่อน ลำมีรูเล็กเนื้อหนา ใบมีจำนวน 5 - 6 ใบ ที่ปลายกิ่ง ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่มกว้าง ๆ หรือตัดตรง แผ่นใบกว้าง 0.8 - 2 เซนติเมตร ยาว 10 - 20 เซนติเมตร ใต้ใบมีสีเขียวอมเหลือง เส้นลายใบมี 5 - 9 คู่ ก้านใบสั้น ขอบใบสาก  คลีบใบเล็กมีขน

นิเวศวิทยา 
 เชื่อกันว่าเป็น ไม้ดั้งเดิมในหมู่เกาะอินเดียตะวันออก หรือหมู่เกาะแปซิฟิคตอนใต้ ในประเทศไทย มักจะขึ้นอยู่ตามที่ราบลุ่มริมห้วย แม่น้ำ และมักปลูกรอบ ๆ บ้านในชนบท

ขยายพันธุ์   ปัก ชำ   ใช้ท่อนไม้ไผ่มาตัดทอนเป็นท่อน ๆ ให้ติดปล้อง 1 ปล้อง (ข้อตา) นำมาปักไว้ในวัสดุชำ   เอียงประมาณ 45 องศา   เรียงเป็นแถวเป็นแนวเดียวกันเพื่อสะดวกในการดูแลรักษา เติมน้ำลงในกระบอกไม้ไผ่ให้เต็ม ประมาณ 4 สัปดาห์ หน่อจะแตกออกจากตาไม้ไผ่ และรากจะงอกออกจากปุ่มใต้ตา หรือถ้าตัดทอนท่อนไม้ไผ่ให้ตัดข้อตา 2 ข้อ แล้วเจาะตรงกลางระหว่างข้อตา สำหรับเติมน้ำลงไปในปล้อง นำไปวางนอนในวัสดุชำแนวราบก็ได้เช่นกัน

ประโยชน์   สมัยก่อนมักปลูกไว้รอบบ้านเป็นรั้วกันขโมย กันลม หน่อเมื่ออยู่ใต้ดินทำอาหารได้มีรสดี เมื่อโผล่พ้นดินประมาณ 20 - 30 เซนติเมตร มักเอาไปทำหน่อไม้ดอง จะให้รสเปรี้ยว สีขาว และเก็บได้นาน โดยไม่เปื่อยเหมือนหน่อไม้ชนิดอื่น เนื้อไม้หนาแข็งแรง ใช้สร้างบ้านในชนบทได้ทนทาน ทำเครื่องจักสาน เครื่องใช้ในการประมง
๔. ไม้ทองหลาง หมายถึง การมีทรัพย์สินเงิน มีเงินทองใช้ไม่ขัดสน
 
ข้อมูลทางวิชาการ
ไม้ต้น   ผลัดใบ สูง 5 - 10 เมตร ตามกิ่งต้นอ่อนมีหนาม เรือนยอดเป็นพุ่มกลม โปร่ง

นิเวศวิทยา พบทั่วไปในย่านเอเชียเขตร้อนและอบอุ่น
ออกดอก มกราคม - กุมภาพันธุ์
ขยายพันธุ์ โดยเมล็ดและปักชำ
ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ
                                 เคล็ดลับ วิธีทำแกงเขียวหวานให้อร่อย
ขึ้นชื่อว่า แกงเขียวหวาน แค่ได้ยินชื่อ ก็น้ำลายสอ ออกมารอออยู่ในปากแล้วค่ะ แกงไทย ตระกูลนี้แปลกแตกต่าง จากแกงกะทิ ชนิดอื่นๆ หลักๆเห็นจะเป็นสีของแกง ที่มีสีเขียว ตามสีของพริกที่ใช้ ทำพริกแกงค่ะ แต่คนไทยก็พลิกแพลง แกงเขียวหวานให้ทานได้ไม่จำเจ จากส่วนผสมหลักที่ใช้แกง อาทิเช่น แกงเขียวหวานไก่ (อันนี้แม่เขียวหวานชอบเป็นที่สุดค่า) แกงเขียวหวานหมู แกงเขียวหวานเนื้อ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ค่ะ
วิธีทำแกงเขียวหวาน ให้อร่อย จุดหลักก็เหมือนกับ การทำแกงชนิดอื่นๆค่ะ น้ำพริกแกง สำคัญ มากๆ ค่ะ ซึ่งแม่เขียวหวานเอง ทุกวันนี้ ไม่มีเวลามานั่งตำน้ำพริกแกงเอง แล้วล่ะค่ะ ใช้วิธีลองผิดลองถูกค่ะ ลองสลับซื้อ ของเจ้าโน้นที ของเจ้านี้ที ว่าเวลาเอามาแกงแล้ว ของยี่ห้อไหน น้ำพริกแม่อะไร อร่อยที่สุด ครั้งต่อไป แกงก็ซื้อเจ้าที่เราถูกปากที่สุดค่ะ

สิ่งสำคัญถัดไป ก็คือกะทิค่ะ ถ้าทำได้อยากให้ใช้กะทิสด แบบว่าซื้อมะพร้าวขูดมาคั้นเอง โดยจะต้องซื้อมะพร้าวใหม่ๆ จริงๆ ขูดใหม่ๆ คั้นกันใหม่ๆ (อุ๊ย.. โดนค้อน...โอเคค่ะ เอาเคล็ดลับ แบบเหนื่อยน้อยหน่อย ไม่ต้องขูดมะพร้าว แบบมะหมี่ก็ได้) แต่ถ้ามันลำบากเหลือแสน ก็ใช้กะทิกล่องก็ได้ค่ะ
เวลาแกง ไม่ว่าจะแกงเขียวหวาน หรือแกงไหนๆ ต้องผัด น้ำพริกแกงก่อนค่ะ เอาหัวกะทิ ลงไปเคี่ยวในกะทะให้ แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงไป ผัด ผัด แล้วก็ผัด พอส่วนผสมเริ่มแห้ง ก็เติมกะทิลงไปอีกพอแฉะ แล้วก็ผัด ผัด ผัด จนน้ำพริกแกงแตกมัน มีกลิ่นหอมค่ะ (ไม่แนะนำให้ผัดน้ำพริกแกง ในครัวปิดที่ไม่มีเครื่องดูดควัน นะคะ แบบว่าจามกันทั่วบ้านแน่ค่ะ)
หางกะทิเวลาแกง เราไม่ควรใส่น้ำหางกะทิมากจนเกินไปคะ ใส่แต่พอทำให้แกง "ขลุกขลิก" แกงจะได้รสชาติเข้มข้นค่ะ